วิดีโอการเผยแผ่ศาสนา

ซูเราะฮ์ อัล อัหซาบ
ซูเราะฮ์ อัล อัหซาบ

สุรัตอัลอะฮ์ซาบ (บทที่ 33) เป็นบทสำคัญในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งชื่อบทหมายถึง 'พันธมิตร' หรือ 'กลุ่มพันธมิตร' สะท้อนเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อิสลาม เช่น ยุทธการแห่งคู (อัล-ค็อนดัก) บทนี้ครอบคลุมประเด็นหลากหลาย ตั้งแต่กฎเกณฑ์ทางสังคมและจริยธรรมไปจนถึงสถานะของครอบครัวท่านศาสดาและการจัดการกับพวกหน้าไหว้หลังหลอก โดยมีโองการที่ 72 ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างลึกซึ้ง กล่าวถึง "ความไว้วางใจ" (อัล-อะมานะห์) ที่อัลลอฮ์ทรงเสนอต่อชั้นฟ้า แผ่นดิน และภูเขา แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะแบกรับด้วยความเกรงกลัว ทว่ามนุษย์กลับแบกรับไว้ โองการนี้เน้นย้ำถึงภาระอันยิ่งใหญ่แห่งอิสรภาพในการเลือกและหน้าที่ความรับผิดชอบที่มนุษย์ได้รับ รวมถึงการตระหนักว่ามนุษย์มักจะเป็นผู้ที่อธรรมและขาดความรู้ในการแบกรับสิ่งนี้ สุรัตอัลอะฮ์ซาบจึงเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่เชิญชวนให้พิจารณาถึงความรับผิดชอบต่ออัลลอฮ์และต่อสังคม เน้นย้ำถึงความซื่อสัตย์สุจริต ศรัทธา และการยึดมั่นในหลักการอิสลามเพื่อชีวิตที่มีความหมายและถูกต้อง

ซูเราะฮ์ ฮูด
ซูเราะฮ์ ฮูด

ซูเราะห์ฮูด (Surah Hud) คือบทที่ 11 ในพระคัมภีร์อัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้รับนามตามท่านนบีฮูด ผู้เป็นแบบอย่างแห่งความซื่อตรงและศรัทธาอันแรงกล้า บทนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงพลังของเหล่านบีผู้ยิ่งใหญ่หลายท่าน เช่น นบีนูห์, นบีซอและห์, และนบีชุอัยบ์ ซึ่งสอนบทเรียนอันลึกซึ้งเกี่ยวกับการศรัทธาในเอกภาพของอัลลอฮ์ และผลของการปฏิเสธพระองค์ หัวใจสำคัญของซูเราะห์นี้คือการเน้นย้ำถึง "ความหนักแน่นมั่นคง" (อิสติกอมะฮ์) ในเส้นทางแห่งสัจธรรม ดังที่โองการอันโดดเด่นนี้กล่าวไว้เป็นแนวทาง: فَٱسۡتَقِمۡ كَمَآ أُمِرۡتَ وَمَن تَابَ مَعَكَ وَلَا تَطۡغَوۡاْۚ إِنَّهُۥ بِمَا تَعۡمَلُونَ بَصِيرٞ (จงยืนหยัดอย่างเที่ยงตรงตามที่ท่านได้รับบัญชา และผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวพร้อมท่านก็เช่นกัน จงอย่าละเมิดขอบเขต แท้จริงอัลลอฮ์ทรงมองเห็นทุกสิ่งที่ท่านกระทำ)

ซูเราะฮ์ อัล กาฮ์ฟ 107- 108
ซูเราะฮ์ อัล กาฮ์ฟ 107- 108

อัลกุรอาน ซูเราะห์อัลกะฮ์ฟ์ อายะห์ที่ 107-108 นี้ ได้เปิดเผยถึงพระสัญญาอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ สำหรับผู้ศรัทธาที่มุ่งมั่นและปฏิบัติแต่ความดีงามด้วยความบริสุทธิ์ใจ พวกเขาจะได้รับรางวัลอันล้ำค่า นั่นคือสวนสวรรค์ฟิรเดาส์ อันเป็นที่พำนักอันสูงสุดและงดงามที่สุดจากบรรดาสวนสวรรค์ทั้งหมด ที่ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ให้เป็นสถานที่พักพิงอันนิรันดร์อย่างแท้จริง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดไปอย่างผาสุกและเปี่ยมสุข โดยที่พวกเขาจะไม่ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้ายไปจากมันเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในสวนสวรรค์แห่งนี้สมบูรณ์แบบและน่าพึงพอใจอย่างที่สุด อายะห์เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้เราเพียรพยายามสร้างคุณงามความดี และยึดมั่นในศรัทธา เพื่อวันหนึ่งเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้รับพระเมตตา และพำนักในสวนสวรรค์ฟิรเดาส์อันเป็นนิรันดร์ตามพระประสงค์ของอัลลอฮ์

สิ่งที่ช่วยให้เกิดความสงบสุขและความพอใจ
สิ่งที่ช่วยให้เกิดความสงบสุขและความพอใจ

ค้นพบหนทางสู่สันติสุขภายในและความพึงพอใจที่แท้จริงในชีวิต ด้วยการเรียนรู้ที่จะยอมรับทุกสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ให้เกิดขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากเพียงใด เมื่อเราเข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนมีเหตุผลและเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ความเชื่อมั่นในสิ่งนี้จะช่วยให้จิตใจของเราสงบนิ่งและมั่นคง แม้ในยามเผชิญกับความท้าทายหรือบททดสอบอันหนักหน่วง เราก็จะสามารถรับมือได้อย่างเยือกเย็น หัวใจที่สงบจะนำพาเราไปสู่การยอมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในชีวิตได้อย่างง่ายดาย ดังคำสอนอันลึกซึ้งที่กล่าวถึงจิตวิญญาณอันสงบและพึงพอใจ ซึ่งได้รับการเชิญชวนให้กลับคืนสู่พระเจ้าด้วยความยินดี เพื่อเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขที่ยั่งยืนและไร้ความกังวล

​ ทำไมฉันถึงสวมฮิญาบ?
​ ทำไมฉันถึงสวมฮิญาบ?

หลายคนอาจคิดว่าฉันถูกบังคับให้สวมฮิญาบ แต่แท้จริงแล้วนี่คือการตัดสินใจของฉันเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่มอบพลังและความรู้สึกเป็นอิสระให้กับชีวิตฉันอย่างแท้จริง การสวมฮิญาบไม่ใช่เรื่องของการปกปิดหรือความละอาย แต่คือการควบคุมว่าฉันต้องการให้ผู้อื่นมองเห็นฉันในแบบใด ในโลกที่ผู้หญิงมักถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก ฮิญาบส่งสารว่า 'โปรดมองที่แก่นแท้ภายใน ไม่ใช่แค่เพียงสิ่งภายนอก' ท่ามกลางโฆษณาและสื่อที่ลดทอนคุณค่าของผู้หญิงให้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อดึงดูดใจ ฉันเลือกที่จะหลีกเลี่ยงแรงกดดันและการครอบงำจากค่านิยมเหล่านี้ ทำให้ฉันไม่ต้องวิ่งตามกระแสแฟชั่นหรือกังวลว่าผู้คนจะตัดสินฉันจากรูปลักษณ์ ฉันรู้สึกปลอดภัยและเป็นอิสระอย่างแท้จริง ฮิญาบทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันระหว่างฉันกับผู้ที่อาจมองฉันเป็นเพียงสิ่งของ หรือใช้ฉันเป็นเครื่องมือในโลกที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากเกินไป

ระบบคุณธรรมของอิสลาม
ระบบคุณธรรมของอิสลาม

ระบบจริยธรรมในอิสลาม (นظام الأخلاق في الإسلام) เป็นกรอบแนวทางที่สมบูรณ์และลึกซึ้ง ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนสิทธิมนุษยชนสากลและปลูกฝังความสำนึกในพระผู้เป็นเจ้า (อัลลอฮ์) เป็นสำคัญ โดยยึดหลักว่าสิ่งใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลและสังคม ถือเป็นคุณธรรม ส่วนสิ่งใดที่นำมาซึ่งความเสียหายย่อมถือเป็นความผิด จริยธรรมอิสลามไม่เพียงจำกัดอยู่แค่กฎระเบียบภายนอก แต่ยังหยั่งรากลึกเข้าไปในจิตใจของผู้ศรัทธา คัมภีร์อัลกุรอานย้ำเตือนว่าคุณธรรมมิใช่เพียงพิธีกรรมภายนอก แต่คือการศรัทธาในอัลลอฮ์ การช่วยเหลือผู้อื่น ความอดทน การรักษาสัญญา และความมั่นคงในคุณธรรมทุกสถานการณ์ หัวใจของอิสลามคือความตระหนักรู้เสมอว่าอัลลอฮ์ทรงเฝ้าดูการกระทำของเราในทุกเวลา ทำให้คุณธรรมมิใช่การแสดงออกเพื่อผู้อื่น แต่เป็นการปฏิบัติด้วยความรักต่อพระองค์และความศรัทธาในวันพิพากษา คุณธรรมสำคัญที่อิสลามเน้นย้ำ ได้แก่ ความถ่อมตน ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความยุติธรรม และการควบคุมตนเอง ซึ่งหล่อหลอมเป็นวิถีชีวิตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน สังคม หรือพื้นที่สาธารณะ ตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงการเมือง การดูแลสัตว์ไปจนถึงคำพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นแก่นแท้ของจริยธรรมอิสลาม เริ่มต้นจากบิดามารดา ญาติสนิท เพื่อนบ้าน ผู้ขัดสน ผู้เดินทาง ไปจนถึงการดูแลสัตว์และสิ่งแวดล้อม ดังที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ว่า: "จะไม่มีผู้ใดศรัทธาอย่างสมบูรณ์ จนกว่าเขาจะรักพี่น้องของเขาเหมือนที่เขารักตัวเอง" ซึ่งสะท้อนถึงแก่นแท้ของความเมตตาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

تطوير midade.com

جمعية طريق الحرير للتواصل الحضاري